หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นผลเนื่องมาจากการบีบคั้นหรือการกดทับของกระดูกที่อยู่ในสันหลังที่ส่งผลให้เกิดการกดของเส้นประสาท อาการที่พบบ่อยสุดคือปวดหลัง อาการนี้อาจรวมทั้งการปวดร่วมกับขา แขน หรือช่องอื่นๆ ของร่างกาย อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอาจเป็นหนึ่งในอาการที่ผู้ป่วยพบเมื่อเจ็บปวดของสันหลัง การรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธี เช่น รักษาทางทั่วไปอาจหมายถึง:
- การรับประทานยาแก้ปวด ขยายข้อ หรือยาต้านกลุ่มอัตรา
- การพักผ่อน สลับระหว่างการนั่งและนอนพัก
- การใช้อุปกรณ์รองหลังซึ่งสามารถช่วยกันการดกทับขณะนั่งและการไหลเวียนเลือดในส่วนหลังได้
- การทำกายภาพบำบัด เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการผ่าตัดหรือแก้ปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในระดับที่มากขึ้น
สิ่งที่ควรจำ:
- หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดจากการบีบคั้นหรือการกดของกระดูกภายในสันหลัง
- อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทพบบ่อยสุดคือปวดหลังและอาจจะมีอาการชา
- การรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธี เช่น รับประทานยาแก้ปวด การพักผ่อน และการทำกายภาพบำบัด
การเข้าใจหมอนรองกระดูกภายในสันหลัง (การเข้าใจหมอนรองกระดูกภายในสันหลัง)
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดขึ้นเมื่อกระดูกภายในสันหลังมีการย่อขยายในทิศทางเดียวกันกับเส้นประสาท โครงกระดูกสันหลังประกอบ กระดูกส่วนคอ (Cervical Spine) เรียกสั้นๆว่า C-spine มี 7 ชิ้น กระดูกส่วนอก (Thoracic Spine) เรียกสั้นๆว่า T-spine มี 12 ชิ้น กระดูกส่วนเอว (Lumbar Spine) เรียกสั้นๆว่า L-spine มี 5 ชิ้น
สาเหตุของการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (สาเหตุของการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยสุดคือ:
การสึกหรอตามวัยและการเสื่อมสภาพ
สึกหรอเป็นเรื่องธรรมชาติของการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เนื่องจากวัยที่เพิ่มขึ้น อาการ กระดูกพรุน สันหลังจะแข็งตึงลดความยืดหยุ่นลง
อุบัติเหตุและการบาดเจ็บ
การกระทำที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่ทำให้โครงสร้างหรือส่วนของระบบลำไส้ส่วนการพูดแสดงภาพกระดูกทับเส้นประสาทผรอบเข้าไปชนกันและสมองและข้อมูลทางการดูแลออกจากระบบประสาทของเนื่องปวดของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
ปัจจัยไลฟ์สไตล์และการทำงาน
การทำงานที่ต้องนั่งทำงานนานหรือทำงานที่ต้องทำการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังสามารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
เพื่อป้องกันการกลับมาของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท สามารถดูแลและป้องกันโรคได้โดย:
การปรับท่าทางในการนั่งและยืน
ให้คำแนะนำกับตัวเองในการนั่งและยืนให้ถูกต้องและมีความสบาย และไม่ต้องการเน้นข้อจุด และเปลี่ยนหน่วยงานที่ทำงาน
กิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกาย
บางครั้งการปรับท่าทางและการปฏิบัติงานหรือกิจกรรมของแต่ละวันอาจช่วยลดอาการปวดหลังและป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือที่กำลังจะช่วยกระตุ้นและป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แนะนำให้ควรปรับเปลี่ยนวิถียู่นั่งถูกต้องนอนให้ถูกต้องและคลายเครียดในงาน
คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพ
อาหารที่เหมาะสมและสมดุลย์สามารถช่วยรักษาความสมดุลของร่างกาย รวมทั้งการดูแลสุขภาพโดยรักษาภาวะการเคลื่อนไหวทางกายภาพ รวมถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับมัน ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบของผู้สูงอายุหรือปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อด้านสุขภาพของผู้ป่วยและความสามารถในการทำงาน
อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
ผู้ที่มีโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอาจประสบอาการต่อไปนี้:
- ปวดหลัง: ความเจ็บปวดและความไม่สบายในส่วนหลังของร่างกาย
- ปวดข้อ: เจ็บและอาการบวมหรือชาตามข้อต่างๆ ของร่างกาย
- ปวดร่วม: อาการปวดที่เกิดในข้อต่อร่วมกันทำให้มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหวหรือใช้งาน
วิธีการวินิจฉัยและประเมินอาการ (วิธีการวินิจฉัยและประเมินอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
การตรวจทางคลินิก
ในกระบวนการวินิจฉัยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แพทย์จะทำการตรวจสอบประวัติการเจ็บปวดของผู้ป่วย โดยการซักประวัติเกี่ยวกับอาการปวด และบริเวณที่เจ็บปวด นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจทำการตรวจสอบท่าทางต่างๆ ของร่างกายเพื่อดูว่ามีสัมผัสที่เจ็บปวดหรือไม่ อาการปวดจะสามารถให้คำโดยสารเกี่ยวกับสถานะของเส้นประสาทที่เจ็บปวด
การใช้อุปกรณ์เสริมในการวินิจฉัย
ในบางกรณีที่การวินิจฉัยหรือการตรวจสอบโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นการที่ซับซ้อน การใช้อุปกรณ์เสริมอาจเป็นทางเลือกที่ดีต่อการวินิจฉัย ตัวอย่างเช่น การใช้รังสีเช่นอัลตร้าเซานด์ (ultrasound) และเรียวรักษาอาการปวดหลังที่เกี่ยวข้อง
หลักการและวิธีการรักษา (หลักการและวิธีการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
การรักษาแบบไม่ใช้การผ่าตัด
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด วิธีการรักษาแบบนี้มีหลายวิธีที่สามารถใช้ได้ ดังนี้:
- การรับประทานยาแก้ปวด: หากมีอาการปวดหลัง สามารถรับประทานยาแก้ปวดตามคำแนะนำหรือสั่งจากแพทย์
- การบรรเทาอาการด้วยลูกบอลการใช้ลูกบอลเพื่อรับและรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นที่นิยม โดยอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยช่วยในการลดการกดเส้นประสาทและบรรเทาอาการปวด
- การแก้ไขท่าทางในการดัด: การแก้ไขท่าทางในการดัดหรือเปลี่ยนท่าทางในการทำงานและกิจกรรมประจำวันอาจช่วยลดอาการปวดหลังและรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การปรับเปลี่ยนท่าทางในการนั่งและยืนให้ถูกต้องและมีความสบายสามารถลดการกดเส้นประสาทได้
- การฝึกและบริหารกล้ามเนื้อ: การฝึกและบริหารกล้ามเนื้อหลังและบริเวณที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น และลดความกดทับที่เกิดขึ้นบนเส้นประสาท
- การนอนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง: การเลือกท่าทางการนอนให้ถูกต้องและที่สามารถระงับหลังได้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการกดของเส้นประสาท
- การเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องในการทำงาน: เมื่อต้องการทำงานหรือการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกดของเส้นประสาท ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการกดของเส้นประสาท
การรักษาด้วยการผ่าตัด
ในบางกรณีที่อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรุนแรงและมีผลกระทบต่อการทำงานประจำวันของผู้ป่วย การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม การผ่าตัดควรมีวัตถุประสงค์ในการทำความสะอาดและปกป้องเส้นประสาทผ่านการตัดข้อแขนหรือขา หรือส่วนที่อยู่รอบเส้นประสาท
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ การรักษาตนเองด้วยวิธีเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นโปรดให้คำแนะนำต่อไปนี้:
- การปรับท่าทางในการนั่งและยืน: ให้ปรับท่าทางในการนั่งและยืนให้ถูกต้องและมีความสบาย และไม่ต้องการเน้นข้อจุด และเปลี่ยนหน่วยงานที่ทำงาน
- กิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกาย: การปรับท่าทางและการปฏิบัติงานหรือกิจกรรมประจำวันอาจช่วยลดอาการปวดหลังและป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยกระตุ้นและป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แนะนำให้ปรับเปลี่ยนท่าทางในการนั่งและยืนให้ถูกต้องและคลายเครียดในงาน
- คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพ: อาหารที่เหมาะสมและสมดุลย์สามารถช่วยรักษาความสมดุลของร่างกาย รวมทั้งการดูแลสุขภาพโดยรักษาภาวะการเคลื่อนไหวทางกายภาพ รวมถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับมัน ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบของผู้สูงอายุหรือปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อด้านสุขภาพของผู้ป่วยและความสามารถในการทำงาน
การบำบัดทางกายภาพและการฟื้นฟู (การบำบัดทางกายภาพและการฟื้นฟูหลังการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
กายภาพบำบัดเฉพาะทาง
การบำบัดทางกายภาพเป็นวิธีการที่สำคัญในการช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูหลังจากการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กายภาพบำบัดเฉพาะทางจะใช้เทคนิคและเครื่องมือที่เน้นไปที่ตำแหน่งที่มีปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถของกล้ามเนื้อและระบบข้อต่อ
โปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วย
โปรแกรมการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยหลังการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะทางกายของผู้ป่วยและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การฝึกออกกำลังทางกายภาพสามารถช่วยปรับปรุงความสามารถของกล้ามเนื้อและระบบข้อต่อ อย่างไรก็ตาม โปรแกรมการออกกำลังกายจะต้องเป็นไปในลักษณะที่เหมาะสมสำหรับระดับความรุนแรงของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและสภาวะทางกายของผู้ป่วย
วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกัน (วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการกลับมาของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท)
การปรับท่าทางในการนั่งและยืน
การปรับท่าทางในการนั่งและยืนเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันการกลับมาของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยควรปรับท่าทางให้ถูกต้องและสมดุลย์ เพื่อลดการกดของกระดูกในสันหลัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้รองเท้าหรือเครื่องมือช่วยเพิ่มความสมดุลย์ในการนั่งและยืนได้อีกด้วย
กิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกาย
สำหรับคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ควรมีกิจวัตรประจำวันที่ดีและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเครียดที่มีผลต่อร่างกาย
คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารและการดูแลสุขภาพ
การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและสมดุลย์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ควรบริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยสร้างสุขภาพของกระดูกและระบบไหลเวียนเลือด รวมถึงการดูแลสุขภาพโดยรักษาภาวะการเคลื่อนไหวทางกายภาพและทำงานที่เกี่ยวข้องกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบของผู้สูงอายุหรือปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อด้านสุขภาพของผู้ป่วยและความสามารถในการทำงาน
สรุป
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดจากการบีบคั้นหรือการกดของกระดูกภายในสันหลังที่ส่งผลให้เกิดการกดของเส้นประสาท อาการที่พบบ่อยสุดคือ ปวดหลัง และอาการนี้อาจรวมทั้งการปวดร่วมกับขา แขน หรือช่องอื่นๆ ของร่างกาย
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธี เช่น รับประทานยาแก้ปวด อย่างเช่น ยาแก้ปวด ขยายข้อ หรือยาต้านกลุ่มอัตรา การพักผ่อน สลับระหว่างการนั่งและนอนพัก การใช้ร่องรองซึ่งสามารถช่วยกันลดทีเบียนเสียวนั่งและการไหลเวียนเลือดในส่วนหลังได้ การทำกายภาพบำบัด เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการผ่าตัดหรือแก้ปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในระดับที่มากขึ้น
ดังนั้น หากมีอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เราควรพบแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเพิ่มเติม